0
0
1. ห้ามกู้เกิน 20% ของรายได้สุทธิประจำปีหนี้กลุ่มนี้ส่วนใหญ่จะเป็นหนี้ที่ก่อเพื่อการบริโภคหรือเพื่อสร้างความสุขสบาย เช่น หนี้บัตรเครดิต ช้อปปิ้ง ค่ามือถือ สมาชิกร้านค้าต่างๆ รวมถึงหนี้ผ่อนรถ ซึ่งไม่รวมกับหนี้เพื่อกู้ซื้อบ้าน หรือกู้เงินเพื่อการศึกษา เช่น
- ได้เงินเดือน 20,000 บาท หรือปีละ 240,000 บาท
- เสียภาษี 7,500 บาทต่อปี
- เหลือรายได้สุทธิ 240,000 – 7,500 = 232,500 บาทต่อปี (19,375 บาทต่อเดือน)
- 20% ของรายได้สุทธิต่อปี = 46,500 บาท
ไม่ควรสร้างหนี้เกิน 46,500 บาทต่อปี
คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง
2. ห้ามผ่อนหนี้เกิน 10% ของรายได้สุทธิต่อเดือน เช่น
- เหลือรายได้สุทธิต่อเดือน 19,375 บาท
- 10% ของรายได้สุทธิต่อเดือน = 1,937 บาท
เพราะฉะนั้น การควบคุมเพดานหนี้ให้ได้ผล คือ การแยกประเภทหนี้ ทั้งที่หนี้ที่ก่อให้เกิดรายได้ในอนาคต กับหนี้ที่ไม่ดี อย่างหนี้ที่สร้างเพื่อความสุขสบาย
สำหรับหนี้ที่ควรก่อเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่หนี้ที่สามารถก่อให้เกิดรายได้หรือเกิดประโยชน์ในอนาคต
1. หนี้เพื่อซื้อบ้านเป็นหนี้ที่สร้างความมั่นคงในระยะยาวให้กับชีวิตตัวเองและครอบครัว ผ่อนหมดเมื่อไหร่บ้านก็จะกลายเป็นทรัพย์สินของผู้กู้ทันที
2. หนี้เพื่อการศึกษาเป็นหนี้เพื่อสร้างอนาคต เมื่อมีการศึกษาที่ดีย่อมเห็นช่องทางในการสร้างรายได้ หรือต่อยอดจากสิ่งที่มีได้มากขึ้น
3. หนี้เพื่อสร้างธุรกิจเป็นหนี้เพื่อสร้างรายได้ในอนาคต เช่น กู้ซื้อเครื่องจักรเพื่อทำธุรกิจ
หนี้รถยนต์พุ่ง คนทำงานผ่อนไม่ไหว หนี้ครัวเรือน ทะลุ 15 ล้านล้านบาท
Safe Haven ยังมีให้เลือก รู้จักหลุมหลบภัยของนักลงทุนในวันที่ตลาดป่วน
ต่อมาคือวิธีการบริหารจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ คือ
เป็นหนี้ให้พอเหมาะสม รู้ว่าตัวเองมีรายได้เท่าไหร่และสามารถก่อหนี้ได้แค่ไหน โดยที่ไม่ลำบากตัวเองและไม่สร้างความเดือดร้อนให้กับคนรอบข้าง
อย่าเบี้ยวหนี้เมื่อถึงเวลาจ่ายหนี้ก็ต้องจ่ายให้ครบตามจำนวนและตรงเวลา ถ้าทำได้จะมีประวัติในการก่อหนี้ที่ดี หากก่อหนี้ครั้งต่อไปก็จะได้รับการอนุมัติได้ไม่ยาก
ตรวจสอบสม่ำเสมอเมื่อก่อหนี้แล้วก็ควรตรวจสอบหนี้สินอย่างสม่ำเสมอว่ามีหนี้สินค้างชำระอยู่มากน้อยแค่ไหน ด้วยการจัดบันทึกทั้งรายชื่อเจ้าหนี้ จำนวนหนี้ อัตราดอกเบี้ย ยอดค้างชำระ วันจ่ายหนี้ รวมถึงเงื่อนไขต่างๆ
แยกประเภทหนี้ดูว่าหนี้ที่ก่อไปนั้นเป็นหนี้ดีหรือหนี้ที่ไม่ดี จากนั้นก็พยายามลดการเป็นหนี้ที่ไม่ดีลงให้เร็วที่สุด และเมื่อปลดหนี้ที่ไม่ดีหมดแล้วก็ไม่ควรกลับไปก่อหนี้ก้อนใหม่
ที่มา : ธนาคารไทยพาณิชย์
